วันจันทร์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2553

ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 10

ระบบเครือข่าย กับ เวิลด์ไวด์เว็บ และ ความปลอดภัย
ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการไหลของสารสนเทศ จากแหล่งหนึ่งไปแหล่งหนึ่ง ก่อให้เกิดการเชื่อมโยงเกิดเป็นเครือข่ายที่เป็นนามธรรมอื่นๆ ตามมาอีกเป็นจำนวนมาก เช่น เครือข่ายโรงเรียน (SchoolNet) เครือข่ายมหาวิทยาลัย (Thai UniNet) เครือข่ายงานวิจัย เช่น เครือข่ายฟิสิกส์พลังงานสูง (High-Energy Physics Networks) ในยุโรป เครือข่ายธนาคาร (Bank Net) และอื่นๆ อีกมากมาย เครือข่ายสารสนเทศเหล่านั้น บางเครือข่ายก็อาศัยอยู่บนเครือข่ายคอมพิวเตอร์เฉพาะของตน มีรูปแบบการถ่ายเทข้อมูล (Protocol) ของตัวเอง เช่น เครือข่ายของธนาคาร แต่เครือข่ายส่วนมากอาศัยอยู่บน เครือข่ายคอมพิวเตอร์สาธารณะ อย่างเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น เครือข่ายวิทยุบนอินเตอร์เน็ต (RadioNet) หรือ เครือข่ายมหาวิทยาลัย เป็นต้น
เครือข่ายอินเตอร์เน็ตตามนิยามแล้ว ก็คือเครือข่ายของเครือข่าย (Inter-Networks --> Internet) ซึ่งประกอบด้วยเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Networks) ซึ่งต่อไปนี้จะเรียกว่า LAN หลายๆ เครือข่ายมาต่อกัน จนกลายเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ อินเตอร์เน็ตประสบความสำเร็จได้ เพราะความเป็นระบบเปิดของโปรโตคอลสื่อสารอย่าง TCP/IP ทำให้มีโปรแกรมประยุกต์ให้ใช้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web หรือ WWW) จนทำให้คนส่วนใหญ่เข้าใจผิดไปว่า WWW ก็คืออินเตอร์เน็ต วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจในเรื่องของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ LAN ที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของอินเตอร์เน็ต โปรโตคอล TCP/IP การทำงานของ WWW เพื่อค้นหาเบื้องลึกว่าทำไมมันจึงได้รับความนิยมยิ่งนัก(อ่านต่อ...)

ที่มา : http://www.easyzonecorp.net/network/view.php?ID=151

งานนำเสนอ











ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 9

20 ขวบ"เวิลด์ไวด์เว็บ" ผู้ก่อตั้งหวั่นเรื่องสอดแนมมากที่สุด

Tim Berners-Lee ประธาน W3C ผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็นบิดาของ www

"ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี" ผู้ให้กำเนิดแนวคิด www หรือเวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web) กล่าวในงานฉลองครบรอบ 20 ปี www เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 52 ณ โกลบ ออฟ ไซน์ แอนด์ อินโนเวชั่น (Globe of Science and Innovation) ที่เซิร์น สวิตเซอร์แลนด์ ว่านักท่องอินเทอร์เน็ตทุกคนกำลังมีความเสี่ยงในการถูกรัฐบาลและองค์กรทั่ว ไปติดตามสอดแนมประวัติการใช้งานเว็บไซต์มากขึ้น ระบุว่านี่คือเรื่องสำคัญที่นักท่องเน็ตทุกคนควรหลีกเลี่ยง ไม่ได้พูดถึงองค์กรใดเป็นพิเศษแต่หลายเสียงมองว่าสิ่งที่เบอร์เนอร์ส-ลีพูด พาดพิงถึงกูเกิล

ในงานฉลอง 20 ปี www ที่องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศในทวีปยุโรปเพื่อวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์ หรือเซิร์น (European Center for Nuclear Research: CERN) จัดขึ้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ทิม เบอร์เนอร์ส-ลี (Tim Berners-Lee) ประธานองค์กรความร่วมมือเวิลด์ไวด์เว็บหรือ World Wide Web Consortium (W3C) แสดงความกังวลในเทคโนโลยีระบบการทำงานใหม่ซึ่งถูกพัฒนาให้สามารถบอกราย ละเอียดกิจกรรมออนไลน์ของผู้ใช้แต่ละคน เพื่อสร้างเป็นประวัติส่วนตัวของผู้ใช้ได้โดยอัตโนมัติ เท่ากับการรุกรานข้อมูลส่วนตัวที่วิ่งบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเช่นนี้ เป็นหนึ่งในสิ่งที่เบอร์เนอร์ส-ลีกังวลมากที่สุดในฐานะผู้ก่อตั้งเส้นทางอิน เทอร์เน็ตอย่าง www

"การสอดแนมลักษณะนี้เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องหลีกเลี่ยง" ศาสตราจารย์ด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชาวอังกฤษกล่าว โดยบอกว่าหนึ่งในความท้าทายที่สำคัญที่สุดของโลกอินเทอร์เน็ตคือการสร้าง ความมั่นใจว่า ข้อมูลบนโลกออนไลน์นั้นถูกนำไปใช้ตามจุดประสงค์ที่เจ้าของข้อมูลยินยอมและ สมัครใจ

แม้ไม่ได้ระบุชื่อกูเกิล (Google) ยักษ์ใหญ่บริษัทโฆษณาออนไลน์สัญชาติอเมริกัน แต่หลายคนอดไม่ได้ที่จะนำสิ่งที่เบอร์เนอร์ส-ลีพูดถึง ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระบบการทำงานใหม่ที่เขาระบุว่าสามารถตัดสินใจว่าใครควรจะ ชมคอนเทนท์ใดบนเว็บได้อย่างง่ายดาย มาเชื่อมโยงกับระบบโฆษณาใหม่ของกูเกิล โดยกูเกิลนั้นเพิ่งเริ่มทดสอบระบบโฆษณาใหม่ในชื่อ "interest-based advertising" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เป็นระบบโฆษณาที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบันทึกประวัติการใช้งานอินเทอร์เน็ต ของผู้ใช้แต่ละคน เพื่อประมวลออกมาเป็นข้อมูลความสนใจ สำหรับนำไปใช้ในการเลือกโฆษณาที่เหมาะสมกับผู้ใช้รายนั้นๆ

นอกจากระบบอัตโนมัติ เบอร์เนอร์ส-ลียังพูดถึงความนิยมในการใช้แอปพลิเคชันฟรีบนอินเทอร์เน็ตหรือ คลาวด์เซอร์วิส (cloud service) ที่เพิ่มมากขึ้น ว่ายิ่งทำให้ข้อมูลส่วนตัวที่เก็บบนอินเทอร์เน็ตมีโอกาสรั่วไหลยิ่งขึ้น จุดนี้เบอร์เนอร์ส-ลีย้ำว่าภาครัฐควรเข้ามามีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลโลกออ นไลน์เพื่อป้องกันการนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ในทางที่ผิด ท่ามกลางเทคโนโลยีบนโลก www ที่เบอร์เนอร์ส-ลีเชื่อว่าจะมีการพัฒนาที่รวดเร็วขึ้นอีก

"การพัฒนาเว็บนั้นยังไม่สิ้นสุด ผมมั่นใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่จะเขย่าโลกอย่างที่ไม่เคยเป็นมา ก่อน" เบอร์เนอร์-ลีเชื่อว่าความเปลี่ยนแปลงนั้นคือการเชื่อมโยงข้อมูลแบบใหม่ ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อระบบคอมพิวเตอร์สามารถวิเคราะห์ข้อมูลในแต่ละบิตได้เอง ไม่ใช่การวิเคราะห์เว็บเพจที่ถูกเปิดใช้งานอย่างที่เป็นในปัจจุบัน(อ่านต่อ...)

ที่มา:http://www.adslthailand.com/board/showthread.php

ข่าวประจำสัปดาห์ที่ 8

ระบบข่าวสารเวิลด์ไวด์เว็บ (WWW)
ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๓๔ มีการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข่าวสารแบบไฮเปอร์เทกซ์บนเครือข่าย ส่วนของไฮเปอร์เทกซ์เป็นเอกสารที่เชื่อมโยงกันได้ทั่วทั้งเครือข่าย จึงเรียกระบบสารเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารนี้ว่า WWW (World Wide Web) ระบบข่าวสาร WWW เป็นระบบข่าวสารที่มีประโยชน์มาก มีการใช้กันอย่างกว้างขวาง และเป็นที่นิยมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต

หากย้อนกลับไปในอดีต ความคิดในเรื่องไฮเปอร์เทกซ์มีมานานแล้ว โดยเฉพาะในสมัยที่บริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์สร้างเครื่องแมคอินทอชและระบบกรา ฟิคัลยูสเซอร์อินเทอร์เฟซ (GUI)บริษัทแอปเปิลคอมพิวเตอร์ได้สร้างรูปแบบของการเก็บข้อมูลแบบไฮเปอร์ เทกซ์ไว้ ระบบการเก็บข้อมูลแบบไฮเปอร์เทกซ์จึงเป็นที่รู้จักกันดีในกลุ่มผู้ใช้ เครื่องแอปเปิลแมคอินทอช

เมื่ออินเทอร์เน็ตแพร่หลาย ความคิดในการทำไฮเปอร์เทกซ์มาประยุกต์บนเครือข่ายก็เริ่มเป็นรูปร่าง โดยมีการพัฒนากลไกขึ้นมา ๓ ส่วนส่วนแรกคือ ตัวเนื้อหาหรือข้อมูล ซึ่งก็คือ ตัวหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่รวมรูปภาพ เสียง และภาพเคลื่อนไหวไว้ หรือมีลักษณะเป็นแบบมัลติมีเดียหนังสืออิเล็กทรอนิกส์นี้มีลักษณะเฉพาะตาม มาตรฐานที่กำหนด โดยเน้นการผลิตตัวหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ที่แยกออกไป การจัดรูปแบบหนังสือใช้มาตรฐาน HTML ส่วนที่ ๒ คือส่วนจัดการหนังสืออิเล็กทรอนิกส์และเชื่อมโยงบนเครือข่าย ซึ่งได้มีการกำหนดโพรโทคอลพิเศษสำหรับการเชื่อมโยงบนเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เรียกว่า โพรโทคอล HTTP (HyperText TransportProtocol) โพรโทคอลนี้มีลักษณะทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนที่ ๓ คือ เครื่องเปิดอ่านหนังสือ หรือที่เรียกว่า เบราว์เซอร์ (browser)เครื่องเปิดอ่านหนังสือจะเชื่อมโยงเข้าสู่เครือข่ายตามโพรโทคอลที่ กำหนด และเชื่อมโยงเพื่อนำ ข้อมูลหนังสือ (ไฮเปอร์เทกซ์) มาแสดงผลเบราว์เซอร์สามารถแสดงผลแบบมัลติมีเดียได้เมื่อรวมทั้ง ๓ ส่วนนี้เข้าด้วยกัน จึงกลายมาเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างมากมาย เราเรียกระบบข่าวสารที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่ายว่า เวิลด์ไวด์เว็บ (WWW)

ที่มา:http://guru.sanook.com/encyclopedia

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ข่าวประจำสัปดาห์ที่7

เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web)
เวิลด์ไวด์เว็บ นิยมเรียกสั้นๆ ว่าเว็บ หรือ WWW ถือเป็นส่วนที่น่าสนใจที่สุดบนอินเทอร์เน็ตเพราะ
สามารถแสดงสารสนเทศต่างๆ ได้หลากหลาย เช่น นิตยสารหรือหนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ข้อมูลด้านดนตรี
กีฬา การศึกษา ซึ่งสามารถนำเสนอได้ทั้งภาพ เสียง รวมถึงภาพเคลื่อนไหว เช่นแฟ้มภาพวีดิทัศน์หรือตัวอย่าง
ภาพยนตร์ และการสืบค้นสารสนเทศในเวิลด์ไวด์เว็บนั้นจำเป็นต้องอาศัยโปรแกรมค้นดูเว็บ (web browser)
ในการเข้าถึงแหล่งข้อมูล โดยที่เว็บกับโปรแกรมค้นผ่านจะทำหน้าที่รวบรวมและกระจายเอกสารที่เครือข่าย
ที่ทำไว้
เกตส์ (Gates, 1995) ได้กล่าวถึงเว็บไว้ว่า นอกเหนือจากการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์และการแลก
เปลี่ยนเอกสารกันแล้ว อินเทอร์เน็ตยังสนับสนุนสืบค้นข้อมูล อันเป็นโปรแกรมการใช้งานที่ได้รับความนิยม
มากที่สุดแบบหนึ่งนั่นคือเวิลด์ไวด์เว็บ ซึ่งหมายถึงเครื่องบริการเว็บที่ต่อเชื่อมเข้ากับอินเทอร์เน็ตโดยมี
ข่าวสารเป็นภาพกราฟิก เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องบริการเว็บประเภทนั้น จอภาพจะปรากฏข่าวสารพร้อมด้วย
การเชื่อมโยง เมื่อเลื่อนเมาส์ไปคลิกที่จุดเชื่อมโยงใดๆ ก็จะเป็นการเปิดไปสู่อีกหน้าหนึ่งที่มีข่าวสารเพิ่มเติม
พร้อมทั้งการเชื่อมโยงจุดใหม่อื่นๆ ซึ่งข่าวสารหน้าใหม่นี้อาจจะอยู่ในเครื่องบริการเว็บเดียวกันหรืออาจเป็น
เครื่องบริการเว็บอื่นๆ ในอินเทอร์เน็ต
กิดานันท์ มลิทอง (2540) ได้กล่าวถึงเวิลด์ไวด์เว็บว่า เป็นบริการสืบค้นสารสนเทศที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต
ในระบบข้อความหลายมิติ (hypertext) โดยคลิกที่จุดเชื่อมโยง เพื่อเสนอหน้าเอกสารอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
สารสนเทศที่นำเสนอจะมีรูปแบบทั้งในลักษณะของตัวอักษร ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว และเสียง การเข้าสู่ระบบ
เว็บจะต้องใช้โปรแกรมทำงานซึ่งโปรแกรมที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน ได้แก่ เน็ตสเคป นาวิเกเตอร์ (Netscape
Navigator), อินเทอร์เน็ต เอ็กซพลอเรอร์ (Internet Explorer) มอเซอิก (Mosaic) โปรแกรมเหล่านี้ช่วย
ให้การใช้เว็บในอินเทอร์เน็ตเป็นไปอย่างสะดวกยิ่งขึ้น

ที่มา http://www.jobpub.com